รถตู้วงดนตรี "มาลีฮวนน่า" ชนอดีตทหารดับคาที่แล้วหนี


รถตู้วงดนตรีมาลีฮวนน่าชนอดีตทหารขณะปั่นจักรยานออกกำลังกายตอนเช้าดับคาถนน ก่อนขับหนีไปไกลกว่า 40 กม. แต่ไม่รอดถูกสกัดจับได้ คนขับวัย 63 อ้างโดนตัดหน้า แค่เฉี่ยว คิดว่าไม่เป็นอะไรมาก
เมื่อเวลา 05.00 น. วันที่ 14 พ.ย. ร.ต.อ.นพดล ภักดีสว่าง รอง สว.(สอบสวน) สภ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ได้รับแจ้งเหตุรถยนต์เฉี่ยวชนคนปั่นจักรยานขณะออกกำลังกายเสียชีวิตอยู่บนถนนสายเพชรเกษมช่วง กม.ที่ 471 หมู่ 2 ตำบลนากระตาม อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมหน่วยกู้ภัยสายชลมูลนิธิชุมพรการกุศลสงเคราะห์
ที่เกิดเหตุ อยู่ห่างหน้าโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลนากระตามเพียงเล็กน้อยบนถนนช่องจราจรเลนซ้ายช่องทางขาขึ้น พบผู้เสียชีวิตทราบชื่อจ.ส.อ.ไพศาล เพชรพิรุณ อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 120 หมู่ 9 ตำบลนากระตาม อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร เป็นอดีตข้าราชการทหารมณฑลทหารบกที่ 44 ชุมพร สภาพศีรษะแตกเป็นแผลฉกรรจ์ กระดูกตามลำตัวหักหลายจุดนอนจมกองเลือด ใกล้กันพบรถจักรยาน สภาพถูกชนอย่างแรงจนโครงรถงอ ที่ใต้เบาะนั่งมีไฟสีแดงยังติดกะพริบอยู่ 
นอกจากนี้ ยังพบเศษชิ้นส่วนของรถยนต์คู่กรณีตกกระจายไปทั่วถนน คาดว่าชนแล้วหลบหนีไปจากที่เกิดเหตุไม่ยอมช่วยเหลือ เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการบันทึกภาพและเก็บหลักฐาน ก่อนจะให้หน่วยกู้ภัยได้นำร่างของผู้เสียชีวิตไปตรวจพิสูจน์ที่โรงพยาบาลท่าแซะ พร้อมวิทยุแจ้งให้ด่านตรวจท่าแซะ ด่านตรวจบ้านพละ ออกสกัดรถต้องสงสัยที่ก่อเหตุแล้วหลบหนี
จนกระทั่งต่อมาได้รับแจ้งจาก ร.ต.อ.ชาตรี ทองจันทร์ หน.ชุดปฏิบัติการด่านความมั่นคงประตูภาคใต้บ้านพละ ถนนเพชรเกษม ตำบลเขาไชยราช อ.ปะทิว จ.ชุมพร ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 40 กม. ว่าสามารถสกัดรถยนต์ตู้ต้องสงสัยได้แล้ว ร.ต.อ.นพดล ภักดีสว่าง รอง สว.สอบสวน สภ.ท่าแซะ จึงรุดไปตรวจสอบพบว่าเป็นรถยนต์ตู้ ยี่ห้อโตโยต้า ทะเบียน ฮอ 4413 กรุงเทพมหานคร ด้านข้างรถมีสติกเกอร์ติดข้อความตัวใหญ่ว่า “มาลีฮวนน่า” เบอร์โทรติดต่อรับงานแสดง บริเวณกระจกด้านหน้าแตกยุบ ไฟเลี้ยว กันชนด้านซ้ายแตกพัง ยังมีรอยเลือดเปรอะเต็มประตู ทราบภายหลังเป็นรถตู้ของวงดนตรีมาลีฮวนน่าเพลงชีวิตวงดังของภาคใต้ มี นายวินัย เข้มสีขำ อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 20/169 ถนนเศรษฐสมบูรณ์ ตำบลหนองแค อ.หนองแค จ.สระบุรี รับเป็นคนขับ
จากการสอบสวนเบื้องต้นนายวินัยคนขับรถตู้ให้การรับสารภาพว่า ตนขับรถขนอุปกรณ์เครื่องดนตรีของวงมาลีฮวนน่า กลับจากไปแสดงที่ จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อจะเดินทางไปแสดงต่อทางภาคอีสาน จนมาถึงที่เกิดเหตุได้มีคนขับรถจักรยานออกมาจากข้างทางคล้ายจะข้ามไปอีกฝั่งถนนทำให้ตนซึ่งขับมาด้วยความเร็วไม่สามารถหักหลบได้ทัน จึงเฉี่ยวชนเข้าส่วนที่ตนไม่หยุดก็นึกว่าไม่เป็นอะไรมาก จนมาถึงด่านบ้านพละจึงถูกเจ้าหน้าที่ได้เรียกและควบคุมตัวไว้ดังกล่าว
เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาขับรถโดยประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและพยายามหลบหนีโดยไม่ได้ให้ความช่วยเหลือ ส่งดำเนินคดีต่อไป.
Previous
Next Post »